วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สรุปงานจิบเบียร์ ที่ดิเอ็ม…ครับ อิอิ 4/6/10

สรุปงานจิบเบียร์ ที่ดิเอ็ม…ครับ อิอิ 4/6/10
เปิดด้วยระหว่างที่ อาจารย์ท่านกำลังทานอาหารก็มีผู้ร่วมโต๊ะได้ถามคำถาม ก่อนดังนี้ครับ

ถาม เหตุการณ์ความไม่สงบรอบนี้กล่มท่องเที่ยวเป็นอย่างไรบ้าง
ดร.ตอบ งบที่จะถึงคงดุไม่ดี แต่เชื่อว่าปลายปีนี้น่าจะกลับมาโอเค ขึ้นแต่ที่สังเกตุดูรอนี้หุ้นลงไมมากเท่าที่ควรเพราะผมมองว่า รายย่อยมีเงินสดอยู่ค่อนข้างมาก พร้อมที่จะซื้อหุ้นตลอดเวลา แล้วปัจจุบันทางเลือกทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนโอเคๆก็มีไม่ค่อยมาก พอหุ้นลงคนมันก็เลยแห่ไปซื้อ

ถาม มุมมองของอาจารย์ที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นในการลงทุนครับ
ดร.ตอบ การเลือกหุ้นที่ละลงทุนมันก้มีหลายๆวิธี แตกต่างกัน เช่น พวกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงๆพวกนี้จะดูยึดติดกับ PE ก็ไมได้เพราะกำไรมันโตตลอด PE ที่เห้นมันเป้นของอดีตคุรก็ต้องมองไปข้างหน้า หุ้นกลุ่มนี้ผมก็ให้ความสัคัญคับศักยภาพเป้นหลัก ส่วนอีกแบบคือโตไม่มากรึโตไม่แน่รายได้กำไรทรงๆแบบนี้ก็ดุ PE ที่เป็นอยู่ในขณะนั้นก็ไม่น่าจะหนีกันเท่าไหรแล้วก็ประเมินว่าถูกแพงไหรือยัง
ศักยภาพที่สำคัญที่ผมให้ความสนใจคือการเติบโตของกำไรที่ไม่ต้องลงทุนใม่ๆเพิ่มเช่น CPALL จะขยายสาขาก็ใช้เงินไม่มากนักแต่สร้างกำไรและยอดขายได้ดู หรือพวกกลุ่มที่ให้เช่าที่ต่างๆถ้าอะไรดีดี ก็สามารถปรับราคาค่าเช่าได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ต่างากพวกกลุ่มโรงไฟฟ้าหรืออุตสหกรรมอื่นๆที่ที่หลายคนมองว่าก็มีศักภาพในการเติบโตสูง แต่การจะเติบดตมันต้องใช้เงินไปลงทุน ขยายนู่นขยายนี่เต็มไปหมด การเพิ่มกำลังการผลิตแต่ต้องทุนแบบนี้ดู PE ก็จะดี
หรือดูกลุ่มหุ้นไซเคิล แบบนี้ก็ดู PE ไม่ได้ เพราะช่วงที่มันกำลังมาทุกอย่างมันก็วิ่งไปพร้อมๆกัน จาก PE สูงๆช่วงไม่ดีก็ลดลงฮวบฮาบ กำไรโตมหาศาลแต่เวลาหายก็แย่เลยเหมือนกัน

ถามถึงหุ้น MBK
ดร.ตอบ ผมก็มองว่าเปนหุ้นที่มีปันผลค่อนข้างดี สม่ำเสมอ มีรายได้จากค่าเช่าซึ่งมันเสถียร ไอ้ที่มันขายข้าวก็ไม่เท่าไหร หลักๆคือตัวอสังหามาบุญครองเอง ดีลขายหุ้น TCAP ที่จะเอาเงินไปซื้อที่ดินที่ค่อนข้างดีเพราะที่ที่ซื้อมันก็มีคนเช่าแล้ว แต่ไอ้ที่ไม่ดีกคงจะเป็นข่าวแว่วๆว่าจะไม่จ่ายปันผลรอบนี้เพิ่ม เพาะจะเก็บเงินสดไว้ลงทุน ซึ่งผมเองก้ไม่ซีเรียสไรมากเพราะไอ้ที่ลงทุนมันก็เห็นกำไรแน่ๆและผลตอบแทนที่ได้ก็ค่อนข้างสูง ต่างจากหลายๆบริษัทที่มันลงทุนแล้วแย่ๆ แต่เดี๋ยวต้องขอไปบ่นเรื่องปันผลหน่อย T_T ส่วนเรื่องที่คนกลัวว่าพอห้างไปสร้างกระจุกตัมันจะแย่งกันเอง ผมก็มองว่ามันก็เป้นข้อดูที่จะดึงดูดคนให้เข้ามามากขึ้นแบบเป้นแหล่งชอบปิ้งอะไรประมาณนั้น ยังไงพวกอสังหากลางเมืองมันก็ยังไปได้เรื่อยๆ

ถาม กรณีธุรกิจที่มีรายเดียวในไทยเช่น TTW AOT จะเทียบยังไง
ดร.ตอบ อันนี้ก็ต้องดูราคา พวกนี้มันถูกคบคุมโดยรัฐ ซึ่งมันก็โตได้แต่ไม่มากจะเอากำไรเยอะๆคงไม่ได้ แถมหลายๆบริษัทก็มีปัยหาเรื่องธรรมภิบาล เพราะมันมีการเมืองเข้าแทรงแซงตลอด พวกนี้ไม่สนใจกำไรเท่าไหร ก้เหมือนๆกับหุ้นสมปะทานหลายๆตัวจะทำธุรกิจเอากำไรเต็มแม็กไม่ได้ พวกนักลงทุนก็ต้องทำใจ เราก็ดูราคาเป้นหลักไปแล้วกัน ถ้ามันถุกมากๆก็น่าสนใจ อย่างผม ซื้อ aot ตั้งแต่ 10 บาทกว่าไปจนเกือบ 20 บาทแล้วก็ขายตอน 38 บาท ซึ่ราคาตอนนี้มันถูกมากก็เลยกู้เงินมาซื้อเพราะไม่มีความเสี่ยงหรือมันน้อย
ส่วนที่จะไปดูราคาบุคอันนี้ก็ต้องคิดดีดี บางทีก็คิดม่ได้อย่า AOT ที่สร้างสุวรรณภูมิมันก็เพราะรัฐอยากได้สนามบินดีดี ราคาก็พออยุ่ได้ ราคาบุคผมก็มองว่าไม่ใช่ราคาแท้จริง เช่นพวกน้บอกว่าลงทุนไป หมื่นล้านจิงๆมันอาจจะแต่ เจ็ดพันกว่าล้านก้ได้ที่เหลืออาจเป็นแค่ลม 25-30%เป็นค่าคอมมิสชั่นที่เรารู้ๆกันอยู่ ก็ดูรถเข็นบ้าไรคันละสามหมื่น

ถาม SF เป้นไงบ้างค่ะ
ดร.ตอบ เป้นตัวเล้กที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร ส่วนตัวก็มอง MBK รึ CPN ดีกว่า ส่วนไอ้กรณีปรับมาตรฐานบัญชีใหม่ที่ว่าจะมีไอ้นู่นไอ้นี่เพิ่มเข้ามา แบบนี้ต้องระวังว่ามันเข้ามาจริงรึแต่งๆกันไปเอง เรื่องไอ้ที่ไปร่วมทุนทำโครงการใหม่ๆ ก็ต้องระวังถ้าสนใจก็ให้ดูไปก่อน อย่างตัวเอสพลานาดค่าเช่าเป้นไง เห้นคนก็เดินไม่มากแล้ว SF ก็ไม่เคยทำโครงการอะไรใหญ่ขนาดนี้มันจะบริหารจัดการยังไงถึงจะร่วมทุนกับไอเกียที่ว่าเก่งๆก็ต้องระวัง เมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าชอบแนวนี้ก็ลองดู MAJOR ก็น่าจะดีกว่า ธุรกิจก็ขนาดใหญ่กว่าชัวร์กว่า กลุ่มนี้ถ้าจะเลือกตัวรองๆไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะธุกิจประเภทนี้มันจะทำไรไรแบก้าวกระโดดที่ละเยอะๆไม่ค่อยได้ เจ้าตลาดก็ยังคงเป้นเจ้าอยู่



จากนั้นเป้นช่วงออกอากาศนะครับ สรุปได้ดังนี้ครับ

ถาม VI นี่จะมีคนเยอะไปถึงไหน
ดร.ตอบ ผมก็มองว่า VI มันก็คงจะโตไปรื่อยๆแต่เมือ่ไปถึงจุดนึงมันก้จะหยุด มีคนเข้า คนออก ไม่โกรท ซึ่งมันก็เปนเหมือนกันทุกที และ VI ก็ไม่ได้ครองตลาด แต่ก็มีหุ้นบ้างตัวที่เราก็ไปมีอิจธิพลทำให้ขึ้นลงได้อยุ่บ้าง 555 แสดงว่าเงินพวกเราหลังๆก็คงเยอะอยู่

ถาม วิกฤติยุโรปรอบนี้ เป้นอย่างไร
ดร.ตอบ ตอนี้ก็เริ่มนิ่งๆ แต่ถ่มว่าผ่านไปหรือยังอันีผมก็ไม่แน่ใจ เพราะประวัติสาสตร์ที่ผ่านมาไม่เคยมีวิกฤติครั้งไหนที่มันจะจบเร็วๆแบบนี้แบบ 1 ปี จบ อย่างรอบเมกา ก็ตั้ง 2-3 ปี รอบไทยก็ราวๆนี้ แต่ถ้ากรีซจบได้ใน 1 ปีจริงๆก็สุดยอดมาก ในช่วงเมกาก็เหมือนกนตอนปีแรกผ่านไปหุ้นก็ขึ่นแรงเพราะคนก็ว่ามันจบแล้วหลังจากนั้นก็เน่าสนิทจร 2 ปี ไทยก็อาการคล้ายๆกัน ก็ให้เราระลึกถึงบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้มองแง่ร้ายไปบางที่ประวัติศาสตร์อาจไม่ซ้ำรอย

ถาม กลุ่มยานยนต์เป้นยังไงครับ
ดร.ตอบ ค่อนข้างดี ไทยนี่ค่อน้างประสบความสำเร็จในการเป็นศูนย์กลางยานยนต์ของโลก โลกทุกวันนี้มันก็เสรีมากขึ้นพรมแดนไม่มีการย้านฐานมาผลิตอีโคคาร์ที่ไทยก็ทำได้สบายๆก็น่าจะไปได้ ที่ถามว่าหุ้นรถยนต์ตัวไหนสุดยอดก็ตอบยาก แต่หลายๆตัก็ยังไม่แพง ก็ก็ต้องใจกลุ่มนี้ที่กำไรรอบนี้กระโดดเพราะมันอัดอั้นมา ถ้าภาวะปกติจะเอากำไรโตมากๆก็ไมได้เพราะมันเปนการรับจ้างเค้าผลิต ไอ้คนสั่งมันก็รู้ดี จะไปเอากำไรมากๆก็เลยไม่ได้ ซึ่งอาจารย์ก้ได้ฝากข้อคิดไว้ว่า
“การลงทุนในหุ้นเราต้องรุ้ว่ากำไรของบริษัทที่เราไปลงทุนธุรกิจด้วยมันมีโอกาสทำกำไรหวือหวาแค่ไหน รึเป็นแบบไปเรื่อยๆ”

ถาม CPN
ดร.ตอบ ถ้าโดยศักภาพก็ไม่แพงเท่าไหร แต่ไอ้ปัยหารอบที่ผ่านมาราคาลงไม่มาก ผมตั้งราคาไว้ที่ฟอลมันก้ไม่ลงมาแต่ลงไปแค่ 7% เท่านั้นเองเลยไม่เอา เพราะยังไงก็รุ้ว่างบไตรมาสนี้และอีกหลายๆไตรมาสคงไม่น่าประทับใจ ก้เลยรอไปก่อน กำไรยังไม่มาแต่คนคาดหวังว่ามันจะฟื้นแบบนี้น่ากลัวตรงที่ถ้าเกิดวิกฤต ศก หุ้นพวกนี้มันจะลงไปก่อนและลงแรงเราก็รอไป ต่างจากพวกบริษัทที่ประกาศมีกำไรแน่นอนพวกนี้เวลาตลาดวิกฤติจะลงช้ากว่าชาวบ้านเค้า
เรือ่งประกันภัยที่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะจ่ายกันยังไง เพราะต้องอาศัยการตีความผมก็มองว่าเป็นจราจล ก็คงได้เงินจากตรงนี้ไม่เยอะเท่าไหร แต่ที่ผมเข้าใจว่าลงไม่เยอะรอบนี้เพราะคนมองว่ามันมีศักยภาพอยู่ แต่ก้เรียนรู้ว่าจะมีปัญหาชั่วคราวแบบ 6 เดือนก็กลับมาเป้นปกติคนก็รอได้เพราะเป็เหตุการณ์ครั้งเดียว ซึ่งผมก็ว่าไม่ชัวร์นะรอบนี้
(อันนี้ไมแน่ใจครับต้องรอคนอัดเสียงมาคอนเฟิม ผมหูอื้อไป 555ว่าอาจารย์แกว่า ไม่ใช่ รึไม่ชัวร์)

ถาม MINT
ดร.ตอบ ตอนนี้ก้ยังไม่มีข่าวดีอะไรแต่งบรอบนี้คงเละ เพราะยังไงท่องเที่ยวไทยก็คงยังไม่กลับมาดีพอ พอมาดูที่แวลุเอชั่นก็สูงมากคนคาดหวังเยอะ PE สูงกว่าเพื่อน เมือ่เอามาเทียบๆกับ CPN มูลค่า 4 หมื่นล้าน MINT 3 หมืนกว่าล้าน ไอ้มินต์นี่ก็ไม่ถูกเท่าไหรยิงเอาไปเทียบกับ CENTEL ยิ่งคนละเรื่องทั้งที่ ทั้งสองตัวนี้ โรงแรมก็มีเหมือนๆกัน ห้องพักก้ไม่ห่างกันมาก ทำเลก้ดีทั้งคู่ CENTEL อาจแพ้ด้านอาหารก็ไม่น่าจะห่างกันขนาดนี้ เพราะ CENTEL มูลค่ามันอยู่แค่ 4-5พันล้านเอง ถูกว่าเยอะ
ถามเพิ่มเติมเรื่องเทียบ มาเกตแคป อาจารย์อธิบายว่า มันก็ลองเอามวยมาชกให้ถูกคู่ว่าศักยภาพมันสูสีแข่งกันได้ไหม อย่ากรณีที่แล้ว MINT กับ CENTEL ที่ผมก็มองว่ามันพอพอกันทั้งห้องพัก ทำเล แต่ตัวหลังอาจแพ้เรื่องอาหารนิดหน่อย แต่ CENTEL กลับมาเกตแคปถูกกว่ากันหลายเท่า ทั้งที่มันแข่งกันได้ คุณจเลือกตัวไหนละ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ดีทั้งคู่ข่าวดียังไม่มาก็รอไปก่อนได้ใจเย็นๆ พวกนี้ลงทุนเยอะสร้างโรงแรมที กำไรก็ไม่ได้มากอะไร ยึ่งถ้ช่วงไหนศกไม่ดีแข่งกันดุเดือดนี่ น่ากลัว ลำบาก

ถาม เฮมราช
ดร.ตอบ ตัมนี้ผมก็ไมได้ตาม อยู่ดีดีมันก้โผลมา ที่เล่นข่าว ตั้งโรงไฟฟ้าขายไฟให้การไฟฟ้าได้ราคาที่กำหนด ผมก็ว่ามันก็เฉยๆ เพราะไม่ว่าที่ไหนตั้งโรงไฟฟ้ามันก้ขายให้การไฟฟ้าอยุ่แล้วนี่ แล้วไอ้ข่าวคอนโดที่ขายไม่ค่อยได้แล้วก็มาให้ข่าวว่ายิ่งโอนช้ายิ่งดีเพราะมูลค่าห้องก็จะแพงขึ้นงี้คุณก็เป้นไว้ตลอดชาติเลยดิ ไม่ต้องขาย 5555 จะดูไรให้ดูดีไปได้ แต่ที่น่าสนใจก็ลองไปดูพวกที่มันจะทำพวกผิตไฟฟ้าจากเขื่อนนี่ ผมว่านาจะดีเพราะตนทุนต่ำ แต่โดยรวมๆธุรกิจนี้ก้ยังไม่ดีเท่าไหรสำหรับตอนนี้

ถาม BCP
ดร.ตอบ ตัวนี้ผมก็เริ่มมอง ที่สนใจคือมีเงินสดประมาณ 3-4 พันล้าน หนี้แค่ 1 หมื่นล้าน มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้าน มีหุ้นกู้แปลงสภาพอยู่ใช้สิทธิที่ราคา 17-18 บาทอันนี้ผมไม่แน่ใจแต่ถ้าราคาแถวนี้คงไม่มีใครแปลง ผู้ถือหุ้นเดิมก็น่าจะได้ประโยชน์ เมือ่เทียบกับ เอสโซก้ดูโอเคกว่า กำไรปีละสามพันล้าน ปันผลที่จ่ายก็น่าพอใจ ยอดขายปีละตั้งแสนล้าน ราคานี้ก็แค่ 0.6 ของบุคทรัพย์สินก็คุณภาพโอเคไม่น่ากลัวอะไร ยิง DR1 ก็ยิ่งสบายใจ
แต่ที่ไม่ไปไหนก็งเป้นพราะ มันเป้นพวกหุ้นวัฏจักร ขึ้นลงมันหวือหวา ตัวนี้มันเนิบๆ คนเล่นหุ้นแนวนี้คงไม่สนใจ ไปเล่นตัใหญ่ๆเหวี่ยงแรงๆดีกว่า แบบเล่นคิดจะเล่นเสียผาดโผน ก็เล่นโรเลอโคสเตอรืไปเลยไม่มาเล่นอะไรเด้กแบบนี้

ถาม BTS
ดร.ตอบ ถ้าพูดจริงๆก้เหมือนกันหุ้นใหม่เข้าตลาดเอา BTS เข้ามาเพิ่มในธุระกิจ อยุ่ห่างๆมันไว้ดีกว่า ราคามันก็โอเวอร์มากตอนนี้ แถมเจ้าของคนี้ ก็ไม่ได้มาแจกของหวานๆให้แน่ 555

ถาม TCAP
ดร.ตอบ ดูจริงๆก็ต้องบอกว่าถูก ประสิทธิภาพในการทำกำไรก็ดีขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนที่ทำก็ใช้ได้ แต่ก็เหมือนกับเป็นหุ้นไม่มีเจ้าของจริงๆ แล้วกองทุนใหญ่ๆยังไม่ค่อยมอง ถ้ากองทุนขนาดกลางหรือเล้กบางกองก็สนใจตัวนี้นะผมว่า แตราคาก้ขึ้นมาพอสมควรเลยตอนนี้โดยรวมถือว่าดูดีพอใช้ ณ ราคานี้

ถาม IT
ดร.ตอบ เป็นหุ้นดีตลอดกาลที่ราคาไม่ไปไหน มีศักยภาพ ตลาดยังมีดอกาสอีกเยอะยิ่งใน ตจว ปันผลก้เกือบ 100% แต่ราคาก็ไม่ไปไหน ผมก็มองโตปีละ 15% ไม่ค่อยพลาด แต่ก็คงเหมือนกับหุ้นดีที่ไม่เซ็กซี่หรือหวือหวา ถ้ามีเงินเหลือๆไม่มีเป้าหมายตัวนี้ก็ให้กินปันผลเรื่อยๆ

ถาม SVOA
ดร.ตอบ ก็เป้นหุ้นถูกอีกตัว เฉพาะมูลค่าที่ถือใน IT ก็คุ้มราคาหุ้นแล้ว ถ้าซื้อก้เหมือนได้ธุกิจมาฟรีๆ แต่ก็ต้องดูเพราะเป้นพวก Holding Compa ธุระกิจจริงๆไม่ไปไหนเท่าไหร ผมก็ขาดทุนตัวนี้อยู่แต่ตอนที่ซื้อก็เพราะเห็นถือหุ้นใน IT ซึ่งตัวนี้จิงๆมันมี 3-4 ธุรกิจซึ่งไม่เคยมาดีพร้อมๆกัน ยกเว้น IT ถ้าเกิดวันไหนมันเกิดดีพร้อมกัน ก็น่าลุ้น

ถาม ทาสโก้ TASSCO
ดร.ตอบ ผมก็ไม่ค่อยได้ตาม หลังๆที่ราคามนดีเพราะโครงการไทยเข้มแข็งมันละลาดยางสามพันโลก้เลยขายดีเป้นพิเศษ เพราะนักการเมืองไทยชอบลาดยาง.....

ถาม THANA
ดร.ตอบ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ตามไอ้การเล่นข่าวราคาประเมินที่ดินที่ภูเก็ต ก้ได้ 600-800 ล้านแล้วมาเกตแคปตัวเอง 900 ล้าน ก็มองว่า ดูดีดี หุ้นแบบนี้มีเยอะ อย่าง TMD ก็มีที่ดินเพียบแค่มูลค่าที่ดินก็ท่วมแล้วแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถ้าเจ้าของจริงๆไม่ทำไรหรือไม่ใส่ใจบริหารก็ไม่เกิดประโยชน์ ต่างจาก MBK ที่มันเอาที่ดินมาสร้างมุลค่าหารายได้ตลอด ชาญอิสระก้เหมือนกัน มาเกตแคป 400 ล้าน แต่ถ้าเอาโครงการมารวมๆก็ปาไป 800 ล้านแต่ราคาก็ไม่ไปไหน ไอ้ตัวที่ผมพลาดก้ SSC ที่ราคาที่ดินที่มันทับไว้ก้ท่วมราคาหุ้นไป 3 เท่าแต่ธุรกิจหลักๆก้ธรรมดาโตเรื่อยๆ ซึ่งผก็ว่าวันนึงบริษัทแม่มันก็น่าจะมาซื้อคืนไป ก็ไม่ได้ซือ้เพราะเบื่อเลยไม่ทัน เพราะตอนนั้นมันชอบอารมณืหุ้นที่เล่นแล้วได้เสีย

ถาม JUBILE
ดร.ตอบ ผมก็ว่า CFO เค้าก็คงมีคนหมายๆไว้แล้วอายุก็ขนาดนี้แล้ว ส่วนเรื่องธุกิจมันก็เป้นแบบไปเรื่อยๆ ไมได้โดดเนไร เพราสินค้ามันก็ไม่ต่างจากคู่แข่งเท่าไหร แถวคู่แข่งก็เยอะมาก มันต่างจาก IT ที่มันวางโพซิชั่นไว้ต่างจากรายอื่นๆ การเติบดตด้าน IT ก็เยอะกว่า ส่วนเพชรมันเปนธุรกิจที่เก่า ไม่มีใครอยุ่ดีดีก็แห่ไปซื้อเพชร ไม่เหมือนแห่ไปซื้อมือถือ แล้วก็ต้องดู ศก รสนิยมของคนด้วย ด้านความโปรงใสก็ดูไว้แต่ไม่เกี่ยวกับบริษัทนี้นะเพราะพวกฟองเงินก็ชอบฟอกผ่านวิธีนี้

ถาม JMART
ดร.ตอบ ตัวนี้ผมพึ่งซื้อไป เมือ่ 2 วันที่ผ่านมา (น่าจะเป็นวันพุธ) ที่ผมสนใจเพราะมันคล้ายๆ IT แบรนด์ค่อนข้างดีเหมือนกัน สินค้ามีหลากหลายในร้าน มีมาตรฐาน ไว้ในได้ แบบ IT CITY ไม่ต้องกลัวจะหลอกขายของให้คนไม่ค่อยรู้ แล้วคนก็เปลี่ยนมือถือบ่อย มีโอกาสไปบุก ตจวได้อีกเป็นโอกาสโต ต้นทุนก็ได้เปรียบนิดหน่อยในฐานะเป้นผู้นำ ที่แปลกๆสนใจก็คือธุรกิจรับจ้างทวงหนี้ที่สร้างรายได้ใหม่ กับเซ็งที่แล้วให้คนอื่นเช่าต่อเก็บค่าเช่าขายของ
1 มีความสม่ำเสมอของรายได้ ย้อนไป 12Q กำไร 20-30 ล้านปีละ 80-90 ล้านไม่ค่อยพลาด
2 มาเกตแคป 600 ล้านหน่อยๆ PE 7 เท่า ยอดขาย 6 พันล้านก็โอเคอยู่
3 ปันผล 70% ของกำไรก็ตีซะ 10% ที่ได้
ถ้ายังมีไรเอา 10%ได้ก็โอเค แต่ติดที่มีหนี้สินระยะสั้น 700 ล้านแต่ก็ยังไม่คิดมากเพราะป็นหนี้สินจากการค้าปกติ พวกซื้สด ขายสด ขายผ่อน มีสตอกสินค้าล้าสมัยแต่ JMART ก็จัดการได้ดีดูจากยอดขาย สินค้าสมัยตัวไหนใกล้ตกรุ่นก็รีบลดราคาระบายสินค้าที่ผ่านมาทำได้ดี ตอนที่งบออกคนผิดหวังกำไรเยอะเลยราคาลงแรง ผมก็เลยได้มา 6-7 ล้านหุ้น ถ้าราคาเหมาะสม PE 10 เท่า ก็น่าจะได้อยู่ ถ้าสนใจก็ดูตัวดอกเบี้ยเงินกู้ด้วยแต่ปติตัวนี้คงโดน 5-6% อยุ่แล้ว เวลาปรับดอกที่ 1 ช่อง 0.25 ก็ไม่น่ากระทบไรมาก

ถาม KIAT
ดร.ตอบ วิจารณ์มากๆไม่ดี เดี่ยวหลยคนไม่พอใจ กำไรที่ประกาสออกมาก้ดีมาก แต่ต้องดูราคากับบุคตอนนี้ด้วยว่ามันเท่าไหร ไอ้ส่วนที่เกินบุคมามันเรียกว่าค่าพรีเมี่ยมที่ตัวนี้มีเยอะมากๆพอพอกับ CPALL ก้เลยคิดว่า บรัทรับจ้างขนส่งแบนี้มันมีอำนาจต่อรองขนาดนี้เลยหรอ

ถาม ซิงเกอร์
ดร.ตอบ เมือ 10 ปีที่แล้วมันเป้นธุรกิจที่ดีเยี่ยม มีกูตวิลที่ดี ขายผ่อน ตจว ที่ดีมาก คุมหนี้เสียได้ดี พนักงานรู้จักคนในหมู่บ้านทุกคน ก้ขายจัรเย็บผ้า แต่อะไรที่มันดีมาๆกำไรมันแน่นอนนิ่งๆ อยุ่มาก็อยากโกรท เลยไปขายมอไซต์ก็เลยเจอพิษวะย่ำแย่หนี้เสีย ตอนนี้แก้ปัญหาได้ก็เริ่มกลับมาใหม่ตอนนี้จับธุรกิจแอรื ซึ่งอยู่กับบ้านไม่หายไปไหน แล้ว ตจว ก็เริ่ดแอร์มากขึ้น ตลาดใหญ่ เติบโตดี ไรเพิ่มแน่นอน แล้วพึ่งเริมจับ ปีแรกๆไม่มีหนี้เสียมาให้ปวดหัวเพราะแอร์ใหม่ๆคนไม่ค่อยเบี้ยว แต่ถ้าสนใจก็ต้องดูพวราคาสินค้าเกษตรไว้ด้วย พวก ข้าว ยางเพราะเป้นกลุ่มลุกค้า สินค้าเกษตรดีก็มีตังจ่าย เกดราคาแย่ พวกนี้ไม่มีตังก็เหนื่อย ส่วนเรื่องความชำชาญที่คุยๆว่ารู้จักรคนดี ก็แค่รู้จัก รุ้จักดีขนาดตอนทำมอไวต์มันยังหนีได้อันนี้ก็คิดๆไว้

ถาม SMT HANA
ดร.ตอบ กลุ่มนี้มันหุ้นเซ็กซี่ ขึ้นลงแรงเหวี่ยงๆหลายคนชอบ ช่วงดีก็ราคาไปไว ช่วงไหนไม่ดีก็ลงแรง ต้องดุด้วยเพราะผมก็ฟังมาเยอะแต่ละบริษัทก็ว่าตนเองผลิตได้เจ้าเดียว ก็เอาเข้าจริงมันก้คือการรับจ้างของเขา แล้วอิเล้กมันก็มีขึ้นลง ไม่มีอะไรที่ทำยากมากจนคนอื่นทำม่ได้ ไม่มี เป้นข้อสังเกตุ

ถาม CSL
ดร.ตอบ ทำอินเตอร์เนท ข้อดีอย่างเดียวคือผู้บริหารดูแลผู้ถือหุ้นดีมาก เงินมาเท่าไหรก็ปันผลหมด แต่ตอนนีมันก็ซีดจนผอมแล้ว ต้องระวังวัวตัวนี้จะค่อยๆผมอหายไป เพราะในระยะยยาวก็ไม่ร้ะพัฒนาธุรกิจไปทางไหน

ถาม KK
ดร.ตอบ แบงคืเล้กที่ดูเหมือนถูกประทับใจ ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัยหาอะไร แต่ต้องดูเรื่องถ้าเกิดวิกฤติ พวกนี้จะไปก่อนและแรง

ถาม AOT
ดร.ตอบ ผมก็รออยู่ ถ้า 30 ลงไปผมก็ว่าจะซื้อ แต่ก้ไม่ลงมาซักที ศักยภาพก็ไปได้แต่ชวงนี้ข่าวดีก็ยังไม่มา มีการเมืองเข้ามาเอ่ยว โครงการลงทุนเยอะ ล่าสุดก็มีข่าวจะลดค่าบริการนู่นนี่มากมายยังกะไม่ใช่เงินตัวเอง ซึ่งผู้ถือหุ้นจะซื้อก็คิดมาก มันดูไม่ผมเหตุสมผล รถเข็นก็คันละ 2 หมื่นกว่าบาทแพงเกิน แต่ก็ต้องทำใจ ถ้าจะเล่นหุ้นแนวนี้

ถาม PM
ดร.ตอบ ไม่ได้ติดตามเป้นธุระกิจไม่มีน่าประทับใจสำหรับอาจารย์

ถาม BOL
ดร.ตอบ มั่นคง แต่ตอนนี้ก้เริ่มนิ่งๆ ปกติไม่ค่อยมีวอลลุ่ม การเติบโตมีจำกัดกำไรน่าจะลดลง ขายข้อมูลในไทยยังไม่แพร่หลาย แต่ถ้า PE ต่ำกว่า 10 เท่าก็พอได้อยุ่น่าสน

ถาม SYNTEC
ดร.ตอบ ธุกจรับเหมาเหนื่อยเหมือนกัน โครงการเพีบ แบลลอกพียบ แต่กำไรไม่ค่อยมี ยิ่งรับงานราชการจะเป้นสีเท่าๆ มีนอกมีใน อย่างชีทพายที่ตอกให้ดินแน่นมันอยู่ใต้ดิน ผู้สอบบัญชีจะตรวจยังไง เหล้กเส้นอีก อนาคตธุรกิจก็ไม่แน่นอน บางก็ก็งานเยอะสบาย บางปีไม่มีงานก็เหนื่อย

ถาม SYNEC
ดร.ตอบ ขายอุปกรคอม พวกนี้ใช้เงินเยอะซื้องินสด ขายเงินผ่อน คล้ายเจมาทแตลงทุนเยอะกว่า เพราะมีขายส่งด้วย บางทีเจอลุกค้าซื้อๆๆๆ แล้วหายไปพร้อมกับเงินเรา พวกนี้ขายสินค้าไม่ค่อยมีปัยหามีปัญหาตอนเก็บหนี้นี่แระต้องระวัง มาจินก้บางมาก 2-3%

ถาม ปีหน้าน้ำแล้งซื้อตัวไหนดี
ดร.ตอบ นำแล้งพืชผลเกษตรดีไหมน่าจะแพงขึ้นแต่สังคมไทยเดียวนี้เปลี่ยนไป ไม่ได้ขึ้นอยุ่กับเกษตรกรรม หรือภัยธรรมชาติแล้วจะกระทบชีวิตความเป้นอยู่ เดี่ยวนี้ชาวนาจิงๆก็ไม่ค่อยมส่วนใหญ่กลับไปทำงานปีละ 15 วันนนอกนั้นก็มาเป้นวิน รับจ้าง ทั่วไปมากกว่า ผมก้เลยมองไม่อกมามันจะซื้ออะไรดี

ถาม SIS
ดร.ตอบ ขายอุปกรณ์คอมเมือนกันกับ synec ซึ่งมันก้โยงๆกันอยู่ตัวนี้ให้ระวังความเสี่ยงเพราะ ความเสี่ยต่ำแต่ความเสี่ยงที่มันมเกิดขึ้นแล้วจะเสียหายสูงมาก

ถาม ADVANCE
ดร.ตอบ มีความเสี่ยงเรื่องสัมปะทานเหลืออีก 10 ปี ส่วน 3G ก็ไม่นาจะมีปัยหาออะไร ดูรื่องการเมืองด้วยเริ่เข้ามาแทรกแวงมาก ซึ่งปันผลตัวน้ถือว่าสุงมากเหมือนกัน

ถาม MCS
ดร.ตอบ ก็เป็นหุ้นที่ดี ทั้งที่ธุรกิจก็ไม่ได้มีอะไรยากซับซ้อนอะไร ก็น่าแปลกใจที่มาร์จินเยอะ ก็พิจารณาดูดีดี ว่ามันมีอะไรหือเปล่า ถ้ายังตอบได้ไม่เคลียร์ก็ดูดูกันไป เจ้าของก็ขายเยอะ

ถาม RCL
ดร.ตอบ ตัวนี้ก็น่สนใจ ช่วงที่มันก็แย่จิงๆ ช่วงนี้ผ่านไปหมดแลวก็น่าจะฟื้นตัวได้ พวกนี้มันมีต้นทุนคงที่ที่เหือเป้นกำไรล้วนๆ ก็ลองดูต้นทุนของมันถ้ามีส่วนต่างก็ไปได้แน่ๆ

ถาม BAS
ดร.ตอบ ผมก็มีอยู่นิดหน่อย ซื้อเพราะไม่รู้จะไปลงทุนอะไร เทียบกับ AOT โตพอพอกันปีละ 4-5% มีรายได้แน่นอน ถ้ายอดขายโต 5% กไรจะเป้น 10% การลงทุนอะไรก็ไม่มีการการดูแลรักษาก็ใช้เงินน้อย ถ้ากาบินกลัมาตัวนี้ก้น่าจะไปได้

ถาม BLA
ดร.ตอบ มองว่าขึ้นมาเยอะเกินไป ธุรกิจถึงจะดีแต่ก้ไม่ควรสูงขนาดนี้ ธุรกิจปรกันไม่ได้กำไรมากกมาย กำไรส่วนใหญ่คือพอตลงทุน มองตัวน้แค่พอใช้แต่ราคา pe แพงไปหน่อย

ถาม IVL
ดร.ตอบ โดยรวมปีนี้กลุ่มนี้ใช้ได้ทั้งกลุ่ม แต่ดูราคาในตลาดสูงไปหน่อยเห้นยอซื้อขายติด top ตลอดเวลามีการเก็งกำไรสูงไปหน่อย ถ้าตัวนี้ก็ลองดูพวก TR TCB(ตัวนี้ไม่แน่ใจครับไม่คุ้น) ก็พอพอกันแต่ถูกกว่า พวกแขกนี้เก่งกำไรไม่ปันผลเอาไปลงทุนต่อ

ถาม IHL
ดร.ตอบ ไมได้ตามเลยตัวนี้เหมือนย้อนกลับไปรู้สึกมีข่าวคาวเยอะไป แล้วแปะหนังจากไทยมันไม่ดีเหมือนหนังจากต่างประเทศเพราะวัวไทยชอบคันแล้วถูๆ หนังเลยหยาบๆ

ถาม อาจารเล็งตัวไหนไว้
ดร.ตอบ ก็ซื้อ JMART ไป ตอนนี้มันติดนิสัยว่าเคยซื้อหุ้นถูกๆตอนนี้ราคาขึ้นมาหมดแล้ว ก็ซื้อไม่ลง ทั้งที่สถานการณืมันเลี่ยนไป

ถาม BEC
ดร.ตอบ มารเกตแคปสูงมาก สุงทุกอย่าง ธุรกิจมันก้ดูตันๆ วื่อื่นๆเยอะขึ้นคนรุ่นใหม่ก็ติดเน็ทมากกว่าทีวีแบบลูกสาวผม แต่ตอนนี้ก็ยังรักษาระดับพวกกำไรได้ดีแต่ พอมองระยะยาวๆก็มองไม่ออก

ถาม CPF ที่ไปลงทุนในจีน
ดร.ตอบ น่าจะเป้นการลงทุนส่วนตัวไม่เกี่ยวกับตัวนี้ครัเจ้าของนี่มีบริษัทส่วนตัวแยกกันเยอะ

ถาม อาจารมองตัวไหนเป้นซุปเปอร์คอมปานี
ดร.ตอบ ก็พวก CPALL BEC CPF CPN HMPRO บำรุงราษอีกตัว

ถาม ถ้ามีแต่ตัวแพงๆ อาจารยืแนะนำยังไงดี
ดร.ตอบ ถ้าหาไรไม่เจอก็ดูปันผลล้วกัน อย่างผมี MBK 70 บาท 60 บาท ตอนนี้ 80 บาทก็ถือว่าขึ้นไม่เยอะ ตัวดีดีที่เล้งไว้ราคาก็ยังไม่ลงมาอย่าง บำรุงราษ ก็ pe 20 เท่า ดีแต่ไม่ถูก ข้อจำกัดการลงทุนก้เยอะเลยดุไปก่อน

ถาม เวลาหุ้นตกแรงๆอาจารย์จัดพอตยังไง
ดร.ตอบ ไม่ค่อยตกเยอะตัวที่ผมถือๆ เพราะเวลาเราซื้อเราก็เลือกหุ้นที่ค่อนข้างทนมาอย่างดี ลงมาก็ไม่รู้จะขายทำไม แต่ถ้าตัวที่ไม่ทีลงแรงๆก็คงกู้มาซื้อเพิ่ม รอบนี้เปนครั้งแรที่มีเงินเหลืออยุ่เยอะแต่ไมรู้จะซื้ออะไรซึ่งแปลกมากๆเลยซื้อตัวเล้กตัวน้อยรอไปก่อน

ถาม KTC
ดร.ตอบ ราคาก้ลงไม่ลงต่ำกว่า 10 บาท แต่ระยะยาวน่าจะกลัมาได้ ดูจมาเกตแคป ยอดขาย ลุกค้าเป้นล้านคน ถือว่าถุกมากก็ค่อยๆรอวลาไปก่อน ยิ่งบุคของพวกธนาคารการเงินด้านน้จะเป้นบุคจิงๆ ไม่เหมือนของหลุ่มโรงงานที่หักค่าเสื่อมค่าไปมากมาย กบุ่มสถาบันการเงินพวกธนาคาร ควรยู่ที่บุคระมาณ 2 เท่า ถ้าแบงค์เล้กๆก็ลดลงมาหน่อย PE ไม่ค่อยเท่าไหร อย่างกรนี SCIB ที่ต่ำบุคก็ไม่ขายต้อง 1.5 เท่าถึงคุยได้

ถาม TTW
ดร.ตอบ ตัวนี้ก็ใช้ได้แต่ผลตอบแทนจากโครงการในอนาคตคงไม่มากเท่าปัจจุบัน แล้วการจะเพิ่มยอดขายก็ต้องลงทุนเยอะ มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณน้ำ ก็ต้องดูด้วย พื้นที่ด้วย เดิ่มที่กำไรเยอะเพราะตอนเซ็น สัญญาอัตราดอกเบี้ยหรืออะไรต่างๆมันอยู่ในระดับสูง ถ้าเปิดโครงการตอนนี้ก็คงไม่ได้สุงขนาดนั้น

ถาม IRC
ดร.ตอบ จริงๆไม่แพงแต่ไม่หวือหวา มาจิน ROE ดีมาก ผู้บริหารก็ดี ก็ก้เหมือผู้หญิงสวยไม่เซ็กซี่

ถาม PICO
ดร.ตอบ ธุรกิจนี้ปีนี้เหนื่อยแน่ จราจลเยอะ คู่แข่งเยอะ ธุรกิจแรงงาน มีคนมากไม่มีงานก็แย่ ถ้าไม่มีพาทเนอร์รายใหญ่สนับสนุน ก็ลำบาก CMO ก็เหมือนกัน ผมเลยขาย

ถามเรืองเทรนตลาด
ดร.ตอบ ถ้าทุกอย่างจบจริงๆก็มีดอกาสเจอกระทิงเถือ่น เพราะตอนนี้ตลาดรที่ยบกับเพื่อนบ้านมันต่ำไปคนอื่นเค้าไปไกลกันหมดแล้ว แต่ถ้าเรามองภายในของเราเองราคาตอนนี้ก็ไม่ถูกเหมือนกัน กลางๆ ตอนนี้การลงทุนเปลี่ยนไปไปเนนในประเทศที่มีประชากรเยอะๆ มีการบริโภค แรงงานเยอะ ซึ่งเมือ่ก่อนมองว่าคนเยอะถ่วงความเจริญ

ถาม STA
ดร.ตอบ ราคายางก็ขึ้นมาพรวดๆกำไรก็ดตมาก แต่ก็ไม่ปันผลออกมาก ก็เล่นเป้นรอบๆไป

ถาม โกลเบิล เทียบกับโฮมโปร
ดร.ตอบ ไม่น่าจะเป้นคู่แข่งโฮมโปรเพราะโกเบิลเน้นขายกลุ่มก่อสร้างตรงๆ วึ่งก็มีบุญถาวรมาแจมอีกตัว แต่สังเกตุ โฮมโปรเป้นหุ้นที่เติบโตมาเป้นระยะเวลานานกว่า 10 ปี น่าจะเป็นซุปเปอรืคอมปานีได้ เรื่องของราคาก็ลองดู บัฟเฟด ที่พึ่งซื้อวอลมาลเมือ่ 2 ปีที่แล้วหลังจากดูมา 20 ปีก็เห้นว่ามันยังแพงๆเลยไม่ได้ซือ้ก็พึ่งตัดสินใจได้

ถาม TPIPL
ดร.ตอบ อย่างไปยุ่งกับเค้าเลย

ถาม การมองหาหุ้นการเลือกหุ้น
ดร.ตอบ ก็ลองทำตารางเชคลิสออกมาดูแล้วเทียบกันว่าวไหนเปนอย่างไง ดูธุรกิจ ดูPE ดูราคา ดูงบ แล้วดูว่าตัวไหนได้คะแนนเต็ม หรือสูงสุดก็ซื้อ ถ้าคิดว่าระยะยามดี ก็ค่อยๆซื้อไปเรือ่ยๆเฉลี่ยๆไปได้ถูกบ้างแพงบ้างแต่สุดท้ายก็คือกำไรในอนาคตที่เราคาดไว้

ขอถามคุณแชมป์หน่อยนะครับ ว่าอาจารย์พูดถึง JMART ว่าจะโตได้จากอะไร เพราะผมเองก็คิดว่าเรื่องมือถือ ตอนนี้มีกันคนละเครื่องกว่าๆแล้ว ถ้าโตได้ก็น่าสนใจมากเลยนะครับ เพราะราคาหุ้นไม่แพงเลย

อาจารย์ว่ามันโตเรื่อยๆครับแล้วมือถือก้เปลี่ยนบ่อย อ้อ ตกประเด็นไป JMART รอบที่ผ่านมามันลงทุนผิดพลาดกับ เจโฟน ด้วยนะครับทีขาดทุนเยอะหน่อยเพราะมองตลาดคนไทยผิดไปที่เอาเครื่องที่คุณสมบัติเยอะๆแล้วราคาถุก โฆษณาหน่อยๆจะขายได้ แต่ปรากฏว่าคนไทยติดแบรนด์ เลย ไม่ได้กำไรสนใจ 555 ที่น่าสนใจอาจารย์จะพูดถึงประเดินะรกิจทวงหนี้ที่มีคนอยุ่ 400 คนคอยตามหนี้ทางโทรศัพ ก็น่าสนใจครับตรงนี้ แต่ธุรกิจหลักขายมือถือก้โตเรื่อยๆ ปีปี คนเปลื่อนมือถือเยอะ

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คีย์ซักเซสอิ่มสะดวก “เซเว่นฯ” ก้าวด้วยฟู้ด ก้าวด้วยแฟรนไชส์

ถ้าบทบาทของ “ซีพี” คือการ ก้าวสู่ครัวของโลก บทบาทของ “ซีพี ออลล์” ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ก็ไม่ต่างกันนัก เพียงแต่ ลดสเกลจาก “ครัวโลก” มาเป็น “ครัวไทย” โดยเจาะเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนไทยที่มีความเร่งรีบมากขึ้น สลัดภาพร้านสะดวกซื้อที่คุ้นเคย สู่ภาพ “ร้านอิ่มสะดวก”
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “ปิยะวัฒน์ ฐิติสัทธาวรกุล” กรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์ หนึ่งในผู้ขับเคลื่อน ร้านอิ่มสะดวกเซเว่นฯ ให้บรรลุทั้งในแง่การสร้างภาพลักษณ์ใหม่และการขยายสาขา ที่ซีพีทาวเวอร์ เย็นวันหนึ่ง
- แผนขยายสาขาใน 3 ปีหน้า เป็นอย่างไร
เซเว่นฯ เน้นไปตามชุมชนใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ สิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5,700 สาขา เปิดเพิ่มปีละ 500 สาขา ดังนั้น อีก 3 ปี ก็จะได้ 7,000 สาขา ตอนนี้มีลูกค้าวันละเฉลี่ย 1,100-1,200 คนต่อสาขา หรือ วันละ 6,000,000 คน ก็นั่งเทียนคาดการณ์ว่าอีก 3 ปีข้างหน้า จะมีลูกค้าวันละ 8,000,000 คน
แต่ถ้ามองเป็นภาพใหญ่ วันนี้มีร้านโชห่วยทั่วประเทศกว่า 600,000 ราย ถึงช่วงนั้นก็อาจเป็น 700,000 ราย เราก็เป็นแค่ 1% ของค้าปลีก
อย่างไรก็ตาม แนวทางการขยายสาขาจากนี้ไป เซเว่นฯ โฟกัสที่แฟรนไชส์ ซึ่งปีนี้มีสัดส่วนอยู่ 50% เพิ่มปีละ 3% อีก 3 ปี แฟรนไชส์ก็จะเป็น 60% ฐานจะใหญ่ขึ้น เรื่อย ๆ แต่ร้านบริษัทอยู่คงที่ เพราะบริษัทอยากสร้างเถ้าแก่รุ่นใหม่ ทั้งพนักงาน เด็กจบใหม่ เพราะวันที่เราก้าวไปถึง 7,000 สาขา การให้แฟรนไชส์ดูแลตัวเองจะสะดวกกว่าให้ลูกจ้างดูลูกจ้าง แล้วบริษัทก็สามารถดูแลตลาดใหญ่เต็มที่ ดูเรื่องการจัดการต่อสาขาให้ดีขึ้น
- ทำไมเซเว่นฯ ถึงเปิดสาขาติด ๆ กัน บางพื้นที่ห่างกันไม่เกิน 50 เมตร
ถ้าไม่ใช้กลยุทธ์คุมตลาด คู่แข่งก็จะมาตีเรา บางทำเลที่เป็นเกรดเอมาก ๆ ยอดขายอาจสูงถึงวันละ 70,000 บาท เราก็เปิดสาขาที่ 2 ซึ่งอาจจะได้ยอดขายสัก 50,000 บาท ขณะที่สาขาแรกเหลือ 60,000 บาท คู่แข่งก็ไม่กล้ามาแล้ว แต่ถ้าปล่อยให้มีแค่สาขาเดียว พอคู่แข่งมาตียอดขายอาจลดเหลือแค่ 40,000 บาท ก็ได้ สู้ขยายสาขาเอง อย่างดีก็กระทบยอดขายเดิมเพียง 5-10%
- ทั้ง ๆ ที่เซเว่นฯ มีสาขาครอบคลุม ทำไม เทสโก้ฯ บิ๊กซี ท็อปส์ คาร์ฟูร์ ถึงสนใจตลาดนี้
วันนี้โลกแข่งขันสมบูรณ์ ทุกธุรกิจมีการแข่งขัน เขามองว่าเป็นโอกาส เพราะเห็นเราเติบโตทุกปี ตอนนี้เซเว่นฯ มี 5,000 สาขา อีก 10 ปี อาจเป็น 10,000 สาขา ถึงตอนนั้นเขาก็อาจมีสัก 4,000 สาขา เป็นเบอร์ 2 หรือเบอร์ 3
อีกประการหนึ่งคือ สาขาขนาดใหญ่เจอเรื่องกฎหมายผังเมืองที่เปิดตามชุมชนใหญ่ ๆ ไม่ได้ เขาต้องไปเปิดชานเมือง ซึ่งมันไม่คุ้ม ถ้าจะเข้าตัวเมือง ก็ต้องลดไซซ์ลงเหมือนเซเว่นฯ ผมเข้าใจอย่างนั้นนะ พยายามคิดแทนเขา ใช่ไม่ใช่อีกเรื่องหนึ่ง (หัวเราะ)
- ภาพร้านอิ่มสะดวกที่พยายามปั้นถึงวันนี้คืบหน้าไปถึงไหน
วันนี้ภาพการเป็นร้านอิ่มสะดวกเริ่มเห็นชัดขึ้น เซเว่นฯ พยายามบอกว่าเราไปสู่อาหารมาหลายปีแล้ว โดยเอาอาหาร เครื่องดื่ม สแน็ก รวมถึงสินค้าในเครือ เพราะเครือซีพีกำลังผลักดันไปสู่เรื่องครัวโลก เซเว่นฯ ก็เอาจุดแข็งตัวนี้มาใช้ เริ่มต้นจากโฟรเซนฟู้ดหรืออาหารแช่แข็ง อีซี่โก เมื่อ 4-5 ปีก่อน พอวันนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มีวางจำหน่าย ทั่วประเทศ ขายได้ถึง 4,000,000 แพ็กต่อเดือน เราก็ทำเรื่องชิลด์ฟู้ดหรืออาหารแช่เย็นต่อ ขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน 700-800 สาขา ตอนนี้ยอดขายก็ไม่เลว ได้สาขาละ 60 แพ็กต่อวัน ตอนนี้ก็พยายามผลักดันให้ชิลด์ฟู้ดมีขายทั่วประเทศ โดยต้องสร้างโรงงานและเครือข่ายหรือซีดีซี (Chilled Distribution Center) เพื่อป้อนสินค้าไปยังสาขารอบ ๆ
ข้อดีของการมีซีดีซีจำนวนมาก ทำให้สามารถหาสินค้าขายดีของแต่ละท้องถิ่นมาจำหน่าย เพราะแต่ละภาคบริโภคสินค้าไม่เหมือนกัน ชิลด์ฟู้ดอาจจะมีเมนูทั่วไปขายทั่วประเทศ แต่ภาคใต้อาจมีแกงเผ็ด ๆ หน่อย หรือภาคเหนืออาจมีขันโตก
ตอนนี้จะขยายเมนูอาหารให้ทั่วประเทศ แล้วเป็นไปได้ก็จะเริ่มผลิตอาหารให้ครบ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทดลองที่กรุงเทพฯ ก่อน และยังเริ่มทำเบเกอรี่ กาแฟปั่น กาแฟร้อน น้ำผลไม้ปั่น ทดลองขายที่สาขาศรีบุญเรือง ต่อไปจะเป็นกลุ่มของทานเล่นระหว่างมื้อ ถ้ากลุ่มนี้สำเร็จ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นอิ่มสะดวกอย่างแท้จริง
- สำหรับอาหารซึ่งมีอินไซด์เรื่องความอร่อย แก้โจทย์ตรงนี้อย่างไร
เจอคำถามนี้ ผมต้องแก้ผ้าหมดเลยนะ (หัวเราะ) โฟรเซนกับชิลด์ฟู้ด บริษัทให้ซีพีเอฟเป็นคนผลิตทั้งหมด เพราะเมนูเป็นความลับ ก่อนหน้านี้เคยไปจ้างข้างนอกไปพึ่งคนอื่นหายใจ สินค้าไม่ได้มาตรฐาน บางทีก็ไปทำป้อนคู่แข่งอีก เลยไม่เอา
ส่วนเรื่องรสชาติ เอาลูกค้าเป็นตัวตั้ง เริ่มจากทำรีเสิร์ชก่อนว่าเมนูขวัญใจของลูกค้าคืออะไร แล้วก็ส่งคนเซอร์เวย์ทั่วประเทศ ว่าเมนูนั้นเจ้าไหนทำอร่อยที่สุดคัดเหลือ 3 ราย จากนั้นก็หากุ๊กมาถอดสูตร แล้วทดลองขายก่อนไม่กี่สาขา ถ้ายอดขายไม่ดี ก็ต้องปรับปรุงจนกว่าจะอร่อยใกล้เคียงกับเจ้าของสูตร
เรียกว่ามีที่มาที่ไป ไม่ใช่อยู่ ๆ อยากขาย คิดปั๊บแล้วก็ขายเลย อย่างนั้นไม่มีทางสำเร็จ
- ที่มุ่งมาทางอาหารเพราะกำไรดีกว่าหรือต้องการสร้างความแตกต่าง
ยอมรับว่าอาหารมาร์จิ้นเยอะ คู่แข่งก็ไม่มี ขณะที่โกรเซอรี่กว่าจะขายหมดใช้เวลานาน ลูกค้าเซเว่นฯ เป็นกลุ่มบีกับซี เขาซื้อสินค้าแค่ชั่วคราว ใช้หมดแล้วมาซื้อซ้ำเรื่อย ๆ ไม่ต้องตุน เราจึงขอให้ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าชิ้นเล็กลง อันนี้ก็เป็นอีก 1 เคล็ดลับ เมื่อสินค้าชิ้นเล็กลง ราคาต่อชิ้นถูกลง แต่มูลค่าแพงขึ้น ตอนนี้โกรเซอรี่ในเซเว่นฯ 50% เลยเป็นชิ้นเล็ก แล้วมันก็เป็นยูนิค (Unique) ซื้อได้เฉพาะที่เซเว่นฯ คู่แข่งขายแต่ขนาดกลางกับขนาดใหญ่
- วันนี้เซเว่นฯ ตอบโจทย์ลูกค้าครบถ้วนหรือยัง
วันนี้ต้องบอกว่าครบถ้วน ยอดขายสาขาเดิมเราโต 8% ต่อเนื่องมาหลายปี ทั้งที่เปิดตีกันไปมา แต่สัจธรรมโลกนี้ก็มีอยู่ ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้น มีแปรปรวน มีเสื่อม ตามหลักศาสนาพุทธ เช่นเดียวกับความต้องการของลูกค้าที่มีวันเปลี่ยนแปลง คู่แข่งก็มีของใหม่ ๆ มาเสมอ
วันนี้เซเว่นฯมีครบแล้ว แต่เราไม่อยู่กับที่ ต้องหาสินค้าที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ลูกค้าตลอดเวลา หาสินค้าที่ตลาดไม่มี
อย่างล่าสุดข้อมูลจากรีเสิร์ชบอกว่าผู้ชายรักสวยรักงามมากขึ้น ต้องดูแลผิว มีน้ำหอม ครีม ก็ต้องตามให้ทัน หรืออย่างกรณี รถไฟฟ้า ที่ทำให้คนมี 2 บ้าน ตอบโจทย์การศึกษาและการทำงาน ไลฟ์สไตล์คนก็เปลี่ยน เพราะอย่างคอนโดฯเขาไม่อนุญาตให้ปรุงอาหาร คนก็ต้องเปลี่ยนมากินข้าวกล่อง นี่คือการเปลี่ยนแปลง
แต่ข้อมูลต้องมาจากการรีเสิร์ช เซเว่นฯถึงจะกระโจนไปในสิ่งที่เราไม่คิดจะทำ ถ้ารีเสิร์ชบอกอะไร เราก็ต้องไป
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4188 ประชาชาติธุรกิจ

7-11ไล่ประกบโลตัสเอ็กซ์เพรสทั่วปท.

7-11ไล่ประกบโลตัสเอ็กซ์เพรสทั่วปท. ผนึกแบงก์หนุน”แฟรนไชส์”สปีดสาขา

แนวรบร้านสะดวกซื้อลามถึงต่างจังหวัด เจ้าตลาด “เซเว่นอีเลฟเว่น” เดินเกมเปิดสาขาประกบ “โลตัส เอ็กซ์เพรส” เป็นแซนด์วิช ล้อมกรอบปิดทางไม่ให้โต เผยย่านชุมชน “อุดรฯ-เชียงใหม่” ระอุไม่แพ้กรุงเทพฯ อ้างต่างจังหวัดทำเลดี ๆ มีน้อย จึงต้องเปิดอยู่ใกล้ ๆ ล่าสุดผนึก 3 แบงก์ “นครหลวงไทย-กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์” ปล่อยกู้แฟรนไชซี
ภาพการเผชิญหน้าระหว่างเซเว่น อีเลฟเว่นกับโลตัส เอ็กซ์เพรส เพื่อชิงตลาดคอนวีเนี่ยนสโตร์ ได้เพิ่มดีกรีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการใช้วิธีเปิดสาขามากกว่า 1 แห่ง เพื่อประกบล้อม คู่แข่งเอาไว้ จากเดิมที่กลยุทธ์ดังกล่าวจะมีเฉพาะย่านชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ แต่ล่าสุดการเดินเกมรุกของ เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อล้อมกรอบโลตัส เอ็กซ์เพรส ในลักษณะดังกล่าว ได้เกิดขึ้นตามจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ซึ่งมีการเปิดสาขา 2-3 สาขาในพื้นที่ย่านเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เซเว่นฯเปิดสาขาประกบโลตัส เอ็กซ์เพรส ในลักษณะแซนด์วิช เช่น ย่านโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น และเป็นย่านที่พักอาศัย
ก่อนหน้านี้ บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม มีเซเว่นฯเปิดให้บริการอยู่ก่อน จากนั้น โลตัส เอ็กซ์เพรส ก็ตามมาเปิดประกบใกล้ ๆ กัน ต่อมาไม่นาน เซเว่นฯก็เปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง ทางด้านซ้าย ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร และเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา รวมเป็น 3 สาขา ประกบโลตัส เอ็กซ์เพรส
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันลักษณะดังกล่าวมีให้เห็นบนถนนสายสำคัญ ๆ ที่เป็นย่านการค้าและชุมชน อาทิ ย่านกาดก้อม ใกล้กับวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ทั้ง 2 ค่ายลงทุนเปิดสาขาติดกันตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริเวณถนนสายสุเทพ ย่านตลาดต้นพะยอม หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เซเว่นฯเปิดบริการถึง 6 สาขา ขณะที่โลตัส เอ็กซ์เพรส มีเพียง 1 สาขา ทำให้ถูกเซเว่นฯประกบหัวท้าย ส่วนย่านถนนนิมมานเหมินท์ แม้โลตัส เอ็กซ์เพรส จะเปิดสาขาหลัง เซเว่นฯ แต่ล่าสุด เซเว่นฯใช้กลยุทธ์เปิดสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อประกบเป็นแซนด์วิชเช่นกัน
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นส่วนหนึ่งมาจากหาทำเลดี ๆ หรือเกรดเอในต่างจังหวัดหายากขึ้น ที่ผ่านมาการเปิดสาขาประกบกันมีในหลาย ๆ พื้นที่ แต่ส่วนใหญ่เซเว่นฯถูกคู่แข่งตามประกบมากกว่า
นอกจากพื้นที่ย่านชุมชุมที่มีการแข่งขันสูงแล้ว ปัจจุบันที่พักอาศัยขยายตัวออกไปย่านชานเมืองมากขึ้น รวมถึงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าก็มีการแข่งขันรุนแรงขึ้นเช่นกัน
แหล่งข่าวจากเทสโก้ โลตัส ยอมรับว่า ปัจจุบันการแข่งเปิดสาขาในต่างจังหวัดและชานเมืองเริ่มรุนแรงขึ้น นอกจากเซเว่นฯมีแผนการขยายสาขาในแต่ละปีเฉลี่ย 450 แห่งแล้ว 108 ช็อปก็จะขยายสาขาอีกไม่ต่ำกว่า 400 สาขาภายในปีนี้ ขณะที่แฟมิลี่มาร์ทก็มีนโยบายชัดเจนเน้นขยายสาขาในต่างจังหวัดและเมืองท่องเที่ยว ทำให้การแข่งขันหาพื้นที่ในย่านเกรดเอมีมากขึ้น
“แม้โลตัส เอ็กซ์เพรส มีแผนเปิดสาขาเพิ่มปีละ 60-70 สาขา แต่ธุรกิจหลักยังโฟกัสที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต และปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเน้นเรื่องดิสเพลย์และความโปร่งภายในร้าน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดสาขาประกบคู่แข่งเป็นกลยุทธ์ที่เซเว่นฯใช้มานานนับ 10 ปี ทั้งกรณีร้านเอเอ็ม-พีเอ็ม หรือแฟมิลี่มาร์ท ซึ่งเป็นคู่แข่งในยุคนั้น
นอกจากนี้เซเว่นฯยังเปิดเกมรุกสร้างรายได้ ด้วยการโฟกัสการขยายสาขาในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์ควบคู่ไปด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทุ่มงบฯลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาทขยายสาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นให้ครบ 7,000 สาขา ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยวางแผนลงทุนไว้ปีละ 4,000 ล้านบาท และเน้นขยายสาขาใหม่ในอำเภอขนาดเล็ก ที่มีโอกาส การเติบโต มีประชากรอาศัยหนาแน่น
“ผมบอกไม่ได้ว่า เราจะไปหยุดที่กี่สาขาเมื่อไหร่ เราอาจไปหยุดที่ 10,000 แห่ง เศษ ๆ หรือไม่แน่เลย 10,000 แห่ง เราอาจจะไปได้อีก การเปิดขยายสาขาเราจะเปิดไปเองแบบไม่หยุดเลย ทุกวันเปิด 3 วัน 5 สาขา เราไม่รอคุยกับแฟรนไชส์ เปิดดะเลย ร้านแฟรนไชส์เราต้องเปิดเป็นของเราก่อน แล้วเราค่อยให้แฟรนไชส์มาสวมเข้าไป อย่างไรก็ตาม ปี 2552 ยอดขาย 96,000-97,000 ล้านบาท ปี 2553 คาดว่า ยอดขายเกิน 100,000 ล้านบาทอยู่แล้ว ถึงปี 2554 ยอดขายคงประมาณ 110,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์ถึงทิศทางธุรกิจของยักษ์ใหญ่รายนี้พบว่า จะเดินไปพร้อม ๆ กันทั้ง 3 แนวทาง คือการเร่งขยายสาขา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 7,000 สาขา ภายในปี 2556 การขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อลดภาระการลงทุน และการใช้กลยุทธ์การเปิดสาขาประกบ เพื่อปิดทางโตของคู่แข่ง ล่าสุด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ขยายการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อให้กับแฟรนไชซี จากเดิมที่มีเพียงธนาคารนครหลวงไทย ก็มีธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาร่วมด้วย
วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4180 ประชาชาติธุรกิจ

“แม็คโคร”โล่งเมืองท่องเที่ยวยอดพุ่งอานิสงส์คนหนีม็อบออกตจว.

“แม็คโคร” โล่งอกตัวเลขเมืองท่องเที่ยวเวิร์ก ผลพวงจากคนหนีม็อบออก ตจว. พร้อมเตรียมทุ่มงบฯรีโนเวตสาขาเมืองท่องเที่ยวรับตลาดโฮเรก้าบูม เผยแผนเปิดสาขาใหม่ เมืองกาญจน์-ลพบุรี
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กุมภาพันธ์) แม็คโครมีการเติบโตต่อเนื่องเป็นเลข 2 หลัก แต่หลังจากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในเดือนมีนาคมแม็คโครก็ได้รับผลกระทบบ้าง บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อยเนื่องจากผู้บริโภคเกิดความกังวลโดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น โทรทัศน์ขนาดใหญ่
ขณะนี้แม้ว่าหลาย ๆ ธุรกิจอาจจะได้รับผลกระทบดังกล่าวโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งสมาคมโรงแรมระบุว่าตัวเลขการจองห้องของโรงแรมในกรุงเทพฯลดลง แต่สำหรับแม็คโครเองโดยเฉพาะสาขาในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ถ้าดูจากยอดอาหารสดที่ผ่านมาสาขาเมืองท่องเที่ยวโตมากกว่า 30% ขณะที่สาขาในกรุงเทพฯโตเพียง 10% ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวหนีจากกรุงเทพฯไปเที่ยวต่างจังหวัด
“ลูกค้าเราไม่ใช่กลุ่มโรงแรม 5-6 ดาว แต่ส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นร้านโชห่วย เป็นรถเข็นริมถนน และอีก 17% เป็นกลุ่ม โฮเรก้าหรือรีสอร์ตต่างจังหวัด บูติคโฮเต็ล การตัดสินใจซื้อของลูกค้าขึ้นอยู่กับกำลังซื้อและอารมณ์ บางคนมีกำลังซื้อแต่ไม่มีอารมณ์ก็ไม่ซื้อ แต่ธุรกิจของแม็คโครขายสินค้าที่เขาจำเป็นต้องซื้อ”
นางสุชาดากล่าวว่า หากเหตุการณ์ลากยาวกระทบถึงการท่องเที่ยวก็อาจกระทบไปถึงกำลังซื้อ แผนเปิดสาขาใหม่ปีนี้มี 3 แห่ง ที่เปิดไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่กำแพงเพชร และเมษายนนี้มีแผนจะเปิดที่กาญจนบุรี และช่วงกลางปีที่ลพบุรี
ปัจจุบันแม็คโครมีสาขาตามเมืองท่องเที่ยว 4 แห่งได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย และพัทยา โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ทุ่มงบฯ 50 ล้านบาทในการรีโนเวตสาขาภูเก็ตที่เปิดมา 4-5 ปี โดยติดเครื่องปรับอากาศ เพิ่มตู้แช่ ปรับเลย์เอาต์ ด้วยการนำกลุ่มอาหารสดมาไว้ข้างหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดโฮเรก้า (โรงแรม ภัตตาคาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) จากนี้ไปจะพิจารณารีโนเวตสาขาเมืองท่องเที่ยวต่อ ๆ ไป
และเพื่อกระตุ้นลูกค้าโฮเรก้าที่มีสมาชิกประมาณ 200,000 ราย แม็คโครได้ร่วมกับพันธมิตร 260 ราย จัดงานแม็คโคร โฮเรก้า 2010 ครั้งที่ 5 (18-21 มีนาคม) เปิดโอกาสให้ผู้ต้องการอาชีพเสริมหรือเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจ คาดว่าตลอด 4 วันจะมีผู้เข้าร่วมงาน 70,000 คน เพิ่มจากปีที่แล้วที่จัดงาน 3 วัน และมีผู้ร่วมงาน 50,000 คน ขณะที่ในต่างจังหวัดก็มีการจัดงานโฮเรก้าเดย์ในแต่ละสาขาด้วย
“ปีที่แล้วแม็คโครมีการเติบโต 6% ตลอดทั้งปีนี้คาดว่าบริษัทจะเติบโตมากกว่าจีดีพีของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 4-5%” นางสุชาดากล่าว
วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4195 ประชาชาติธุรกิจ

BOLโชว์ยอดขายQ2ทะลัก สยายปีกบุกอาเซียนเต็มสูบ

23 เมษายน 2010
BOLโชว์ยอดขายQ2ทะลัก สยายปีกบุกอาเซียนเต็มสูบ



--------------------------------------------------------------------------------
ทันหุ้น – BOL ดี๊ด๊าไตรมาส 2/53 ยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 74.23 ล้านบาท เล็งเจรจาลูกค้าใหม่ 2 ราย คาดรับทรัพย์เข้ากระเป๋า 30 ล้านบาท แง้มแผนปีหน้าบุกอาเซียนเริ่มชิมรางสิงคโปร์ และมาเลซีย ด้วยการขายผ่านเครือข่าย D&B ที่มีอยู่ทั่วโลก พร้อมแตกไลน์สินค้าใหม่ “สกอร์” เจาะตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา โบรกเจาะกรอบแนวต้านที่ 1.40 บาท ส่วนแนวรับ 1.30 บาท
นายชัยพร เกียรตินันทวิมล รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) BOL เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/53 บริษัทคาดว่ายอดขายและการให้บริการซอฟต์แวร์จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 74.23 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2/53 บริษัทมีการเจรจาลูกค้ารายใหม่ 2 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าในกลุ่มของธนาคารทั้งสองราย โดยหากดีลนี้สำเร็จจะทำให้บริษัทมีรายได้จากลุ่มนี้ประมาณ 20-30 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ของปี 2553
สำหรับในปีนี้บริษัทได้มีการเจรจาที่จะขยายลูกค้าออกไปยังกลุ่มอาเซียน(AFTA) ซึ่งในขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลของประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยเป็นการขายผ่านเครือข่าย D&B ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งจะสามารถขายสินค้าและให้บริการข้อมูลของบริษัทในต่างประเทศให้กับลูกค้าในประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาระบบการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อของประเทศให้แข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นภายในปี 2554
นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายการส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีลูกค้าอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา ซึ่งบริษัทจะขายสินค้าใหม่ที่มีชื่อว่า “สกอร์” โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้สินค้าดังกล่าวได้นำเทคนิคทางสถิติและคณิตศาสตร์มาใช้ในวิเคราะห์ ประมวลผล และประเมินสภาพการดำเนินกิจการจากข้อมูลทางการเงินให้ออกมาในรูปแบบของคะแนน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้บริหารทางธุรกิจของผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะกับลูกค้ากลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงทางธุรกิจเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้สะดวกรวดเร็ว แม่นยำ และมีมาตรฐาน
** การเมืองป่วนไร้ผลกระทบ
สำหรับปัญหาทางด้านการเมืองนั้นบริษัทไม่น่าจะได้รับผลกระทบ หรือหากได้รับผลกระทบก็จะน้อยมากเนื่องจากธุรกิจของบริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการขายไปต่างประเทศจำนวน 15% ของรายได้รวม และที่เหลือจำนวน 85-90% เป็นสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในประเทศ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นกลุ่มของสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 5 -10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 269.14 ล้านบาทเนื่องจากในปีนี้เศรษฐกิจด้านซอฟต์แวร์มีการฟื้นตัวขึ้นตามภาวะของโลก รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น และจะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเจาะลูกค้าในกลุ่มของแบงค์มากขึ้น โดยคาดว่าจะมีลูกค้ารายใหม่ในกลุ่มนี้เพิ่มเข้ามาอย่างน้อย 4 ราย
นอกจากนี้ปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะขยายลูกค้าผ่านที่ปรึกษาเพิ่มมากขึ้น หรือขายผ่านตัวแทนที่ปรึกษาทางการเงินเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันบริษัทได้มีการเจรจาอยู่หลายราย ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการขยายสินค้าของบริษัทอีกช่องทางหนึ่ง
นักวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)ระบุว่า BOL ในระยะสั้นมีการแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยประเมินแนวต้านที่ 1.40 บาท และแนวรับที่ 1.30 บาท